บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จํากัด(มหาชน) หรือ SCCC รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 656 ล้านบาท ลดลง 13.5% จาก 758 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาสที่2/2566 ความต้องการของตลาดที่ลดลงและความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูง แต่บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของต้นทุนเพื่อความสามารถในการทำกำไร

SCCC ไตรมาส 1 กำไร 758 ล้านบาท ลด 5.5% ยอดขายปูนซีเมนต์วูบ

อสังหาฯ ปีนี้ไม่สดใส แต่กลุ่มบ้านพรีเมี่ยม 10 ล้านขึ้นยังโต

  • ความต้องการของตลาดในประเทศไทยและภาคการส่งออกปูนเม็ดที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
  • อุปสงค์ในประเทศเวียดนามยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง 37% จากไตรมาส 4/2565
  • อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงและวิกฤตเศรษฐกิจสังคมในประเทศศรีลังกายังคงส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และราคาขาย
  • อุปสงค์โดยรวมที่ซบเซาและการขึ้นราคาสินค้าที่ทำได้อย่างจำกัดส่งผลให้กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา รวมถึงกำไรสุทธิลดลง ในขณะที่ด้านราคาพลังงานที่กำลังอ่อนตัวลงจะช่วยส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานดีขึ้น

รายได้ของบริษัทฯมาจากการขายปูนซีมนต์เป็นหลัก ซึ่งคิดเป็น65% ของรายได้รวมในช่วงครึ่งแรกของปี2566และรายได้ส่วนใหญ่ของกลุ่มบริษัทฯ มาจากประเทศไทย ซึ่งคิดเป็น 75% ของรายได้ทั้งหมด

ในช่วงไตรมาสที่ 2/2566 บริษัทฯเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลายในแต่ละประเทศที่บริษัทฯดําเนินงาน ภาคการค้าปลีกในประเทศไทยประสบกับความต้องการที่ลดลงเนื่องจากวันหยุดยาวและการเลือกตั้งส่งผลให้ปรับขึ้นราคาได้อย่างจำกัด ในขณะที่ต้นทุนด้านพลังงานยังคงอยู่ในระดับสูง

ตลาดทางตอนใต้ของเวียดนามได้รับประสบปัญหาจากอุปสงค์ที่อยู่ในระดับต่ำมากจากการชะลอตัวของภาคอสงัหาริมทรัพย์เกิดจากจากปัญหาตลาดตราสารหนี้และแรงกดดดันด้านอัตราเงินเฟ้อความต้องการโดยรวมของประเทศศรีลังกายังคงซบเซา เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกจิที่มีอย่างต่อเนื่องและวันหยุดเทศกาลที่ยาวนาน นอกจากนี้ รายได้จากกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วมลดลงเนื่องจากสภาพตลาดทีไม่เอื้ออำนวย

แม้จะมีความท้าทายที่เกิดจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและความยากลําบากในการปรับขึ้นราคาของบริษัทต่าง ๆ ในกลุ่มบริษัทฯ ทำให้รายได้ลดลง 3.3% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส มาตรการลดต้นทุนส่งผลกระทบเชิงบวกโดยทําให้กําไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคาลดลงเพียง 2.0% และอัตรากําไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคาดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/2566

 SCCC กำไรสุทธิไตรมาสสองร่วง 13.5% ความต้องการปูนวีเมนต์ซบหนัก

กําไรสุทธิของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2566 ได้รับผลกระทบจากการลดลงของกําไรก่อนดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายทางการเงินที่สูงขึ้น และส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงเหลือ656 ล้านบาท จาก 758 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามภาษีเงินได้และค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้มาจากการดำเนินงานที่ลดลงได้มีผลกระทบในเชิงบวกต่อประสิทธิภาพในการทำกําไรสุทธิของบริษัทฯ

ราคาหุ้น SCCC ปิดตลาดวันที่ 8 ส.ค. ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 137 บาท มูลค่าการซื้อ 6.66 ล้านบาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

By admin