เมื่อวันที่ 20 มิ.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2566 หุ้น DELTA ของผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ราคาปรับลดลง 25.25 บาท หรือ -21.49% ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 92.25 บาทต่อหุ้น มูลค่าซื้อขายรวม 2,661 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของกระดาน ซึ่งราคาหุ้นที่ลดลงดังกล่าวมีผลกระทบต่อดัชนี 25.7006 จุด ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) เช้านี้ปรับลด 1.67% อยู่ที่ 1,538.68 จุด
ทั้งนี้ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา หุ้น DELTA ราคาปรับตัวขึ้นแรงกว่า 14% จนกระทั่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศให้ หุ้น DELTA เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 2 (T2) โดยห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณวงเงินซื้อขาย และให้ติด Cash Balance (ซื้อขายโดยใช้เงินสดเท่านั้น) รวมถึงห้าม Net settlement (ห้ามสมาชิกหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน)
ล่าสุด นายจาง ช่าย ซิง กรรมการ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ชี้แจงกรณีตลาดหลักทรัพย์สอบถามถึงพัฒนาการของบริษัท โดยระบุว่า บริษัทไม่มีพัฒนาการใด ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯในระยะเวลาอันใกล้ และไม่ทราบสาเหตุอื่นที่อาจส่งผลกระทบการซื้อขาย
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อ 16 มิ.ย.66 โดยประมาณการณ์กำไรธุรกิจหลักของ DELTA ในไตรมาส 2 ปี 66 อยู่ที่ 3,800 ล้านบาท ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากคำสั่งซื้อเร่งตัวขึ้นตามฤดูกาล และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ซึ่งจะทำให้มีกำไรจากธุรกิจหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 66 อยู่ที่ 7,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 45% ของประมาณการกำไรเต็มปี
โดยคาดว่า ไตรมาสนี้ DELTA ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 976 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนยอดขายครึ่งแรกของปี 66 อยู่ที่ 1,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 50% ของสมติฐานยอดขายทั้งปี
DELTA ราคาหุ้น “ออลไทม์ไฮ” พุ่ง 1,100 บาท โร่ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ
“DELTA” มูลค่าบริษัททะลุ 1.16 ล้านล้านบาท แซงหน้า AOT – PTT
ทั้งนี้ บล.เคจีไอ คาดการณ์ว่าคำสั่งซื้อเกี่ยวกับ ดาต้าเซ็นเตอร์ (data centers) ยังคงอ่อนแอ เพราะมุมมองที่ระมัดระวังของคำสั่งซื้อในช่วงที่อุปสงค์มีสัญญาณชะลอตัว และจากความกังวลเศรษฐกิจโลก แต่ยังคงคาดว่ายอดขายกลุ่มยานยนต์จะฟื้นตัวขึ้น และเติบโตสูงสุด 78% จากปีก่อน หรือ ~24% ของรายได้รวม
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2 ปี 66 คาดว่าจะอยู่ที่ 22% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะมีการตั้งสำรองสำหรับสต็อกเก่าลดลง แต่จะแย่ลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะ product mix ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นครึ่งแรกปี 66 อยู่ที่ 21.4% ต่ำกว่าสติฐานในปัจจุบันที่ 23.8% และต่ำกว่าเป้าของบริษัท 23-24%
อย่างไรก็ตามยอดขายของ DELTA น่าจะดีขึ้นในครึ่งหลังปี 66 เนื่องจากยอดส่งออกเซิฟเวอร์ตลาดโลกดีขึ้น และบริษัทมีการขยายกำลังผลิตจากกลุ่มที่เกี่ยวกับยานยนต์ แต่อัตรากำไรจะเผชิญแรงกดดันจากค่าเงินบาทและ product mix