นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.32 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.36 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.28-36.43 บาทต่อดอลลาร์) หลังจากที่ในช่วงวันก่อนหน้า เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามการอ่อนค่าลงบ้างของเงินดอลลาร์

ที่คาดว่าจะเป็นการลดสถานะ Long USD ของผู้เล่นในตลาดก่อนรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในคืนวันพุธนี้

ขณะเดียวกัน เงินบาทก็ยังได้แรงหนุนการแข็งค่าจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ เรายังเห็นการทยอยลดสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ของผู้เล่นในตลาด ก่อนที่จะรับรู้ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน และอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และการแข็งค่าของเงินบาทจนหลุดโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ก็อาจทำให้เกิด Stop loss ของสถานะ Short THB บางส่วน ซึ่งมีส่วนยิ่งช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

ไฮไลท์สำคัญ

จะอยู่ที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่และผู้เล่นในตลาดต่างมองว่า กนง. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงราว -0.25% สู่ระดับ 2.25% ได้ในการประชุมครั้งนี้ (เราคงมุมมองเดิมว่า กนง. อาจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.50% แต่จะส่งสัญญาณชัดเจนว่าพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในการประชุมเดือนมิถุนายน) และนอกเหนือจากผลการประชุม กนง. ควรจับตารายละเอียดของมาตรการ Digital Wallet ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้

แนวโน้มของค่าเงินบาท

การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง “เร็วและแรง” ของเงินบาทในวันก่อนหน้า จนหลุดโซนแนวรับที่เราประเมินไว้แถว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ นั้นอาจชะลอลงบ้าง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดจะเริ่มเข้าสู่โหมดระมัดระวังตัว (Wait and See) เพื่อรอลุ้นปัจจัยสำคัญ ทั้ง ผลการประชุม กนง. รายละเอียดมาตรการ Digital Wallet และอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ทำให้เงินบาทน่าจะแกว่งตัว sideways ในกรอบ 36.25-36.45 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะรับรู้ปัจจัยสำคัญดังกล่าว โดยเฉพาะผลการประชุม กนง.

หาก กนง. ลดดอกเบี้ย -0.25% ตามที่ตลาดและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (ยกเว้นเรา) ประเมินไว้ พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่า จนทะลุโซนแนวต้าน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก

ขณะที่ หาก กนง. ลดดอกเบี้ยลง แต่ส่งสัญญาณอาจลดดอกเบี้ยเพิ่มราว 1 ครั้ง หรือแม้จะเป็นกรณีที่ กนง. คงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย (Dovish Hold) ตามที่เราประเมินไว้ ก็อาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเงินบาทมากนัก และเงินบาทก็อาจแกว่งตัว sideways เพื่อรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ต่อไป

ส่วนของรายละเอียดมาตรการ Digital Wallet นั้น เราประเมินว่า หากรัฐบาลมีความชัดเจนของมาตรการดังกล่าว ทั้งในแง่ของไทม์ไลน์และมูลค่าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็อาจพอช่วยให้ผู้เล่นในตลาดมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมากขึ้น

ทว่าต้องจับตาประเด็นแหล่งเงินทุนสำหรับมาตรการ Digital Wallet อย่างใกล้ชิด ว่าจะทำให้ผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะในฝั่งตลาดบอนด์มีความกังวลต่อปริมาณการออกบอนด์ในอนาคตหรือไม่

และประเด็นสุดท้าย รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เรามองว่า หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ตามคาด และบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดก็ไม่ได้ส่งสัญญาณสนับสนุนการลดดอกเบี้ย น้อยกว่า 3 ครั้งของเฟด ที่ชัดเจน ก็อาจพอช่วยทำให้ผู้เล่นในตลาดยังมีความหวังว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนได้ ทำให้เงินดอลลาร์อาจแกว่งตัว sideways หรือ อ่อนค่าลงได้บ้าง

ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ออกมาสูงกว่าคาด และบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ต่างส่งสัญญาณสนับสนุนการลดดอกเบี้ยน้อยกว่า 3 ครั้ง ก็อาจหนุนให้เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น เร็วและแรง ทดสอบโซน 104.5-105 ได้เช่นกัน สำหรับดัชนีเงินดอลลาร์ DXY ซึ่งในกรณีดังกล่าว เงินบาทอาจกลับไปอ่อนค่าเกินระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.20-36.70 บาท/ดอลลาร์

กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.25-36.50 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็ววานนี้ ส่วนหนึ่งจากการประกาศมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาฯ ของภาครัฐ เช่น ลดค่าธรรมเนียมการโอน ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับดีขึ้น

อีกทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลงพร้อมดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ US Treasury yields ที่ปรับลดลงมาเช่นกัน โดยเป็นผลจากการปรับ Position ของนักลงทุนก่อนตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกคืนนี้

ทางการญี่ปุ่นเตรียมปรับประมาณการเงินเฟ้อขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีการขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ได้

ด้านฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.32 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 36.70 บาท/ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลง ก่อนการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือน ก.พ.

เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 6,067 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 6,038 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ USD/THB 36.00- 36.50 *แนะนำ ซื้อ 36.00/ ขาย 36.50

EUR/THB 39.20- 39.70 * แนะนำ ซื้อ 39.20 / ขาย 39.70

JPY/THB 0.2380- 0.2430 * แนะนำ ซื้อ 0.2380/ ขาย 0.2430

GBP/THB 45.80- 46.30 AUD/THB 23.80- 24.30

<คำพูดจาก เว็บพนันออน!– TradingView Widget END –>

10 เม.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ชัดเจน นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากรัฐบาล

อสส. เลื่อนฟังคำสั่งฟ้องคดี ม.112 "ทักษิณ" ออกไปเป็น 29 พ.ค. 67 เหตุผลสอบเพิ่มยังไม่ครบ

แม่ทัพภาคที่ 3 ยัน “เมียวดี” ยังไม่แตก สั่งเข้มลาดตระเวนชายแดน

เช็กโปรแกรมบอล ผลบอลสดแบบเรียลไทม์ ‼️ ✅ ได้แล้วที่เว็บไซต์ พีพีทีวี ตามลิงก์นี้เลย >> http://pptv36.tv/1hWR << ไทยลีก พรีเมียร์ลีก และลีกใหญ่ยุโรปครบๆ

By admin